EP4: ฝึกอ่าน Web Analytics จาก Google Analytics กันเถอะ! Website เราดีไม่ดี ลูกค้าทำอะไร ดูอะไร GA บอกได้
Google Analytics บอกอะไร ดียังไง สำคัญฉไหน อยากรู้ตั้งแต่ 0 ไปจนถึงวิเคราะห์เป็น บทความนี้ช่วยได้ 😙
📊Behavior reports overview
เราสามารถดู “Behavior” reports ใต้section “Behavior” ข้อมูลที่ได้จาก report นี้จะช่วยให้เราเข้าใจว่า GA คำนวณข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าได้ยังไง ❓ ซึ่งหลักๆคือ Analytics เก็บข้อมูลจาก Javascript code ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ในการสร้างเว็บไซค์ ทุกครั้งที่ลูกค้าคลิกและหน้าเว็บถูกเรียกโชว์ Tracking code ของ GA จะบันทึกและนับเป็นค่า “pageview” โดยค่า Analytics ที่ใช้ในการวัดผลพฤติกรรมลูกค้ามีหลาย metrics และใช้หลักการการ Track และนับเช่นเดียวกันกับการวัดผล “pageview”
เรามาลองดูตัวอย่างค่า “All Pages” report ซึ่งอยู่ใต้เมนู “Site Content” เเละเมื่อดูที่ตารางหน้าต่างข้างล่างนี้เราจะเห็นข้อมูลดังนี้ค่าา
เริ่มที่ metric แรกคือ “Pageviews” ค่านี้แสดงจำนวนความถี่ที่ลูกค้าเรียกเปิดหน้าเว็บไซค์นั้นๆ โดยในช่อง Page จะแสดงค่าข้อมูล page URI โดย URI เป็นส่วนหนึ่งของ URL และวางอยู่หลัง domain name แต่บางครั้งการอ่านจาก URI ทำให้เราไม่มั่นใจว่าคือหน้าอะไร เราสามารถ swift ไปเลือก “Page Title,” (เมนูขวามือถัดจาก Page) โดยแสดงผลเป็น title name ที่ระบุอยู่ในภาษาที่เขียนเว็บไซค์ (web page’s HTML
อธิบายเพิ่มเติมเรื่อง title name เอาให้เข้าใจกันไปเลย 😆
Title Name คือ Title Tag เป็น Tag ที่มีไว้สำหรับตั้งหัวข้อของหน้า website นั้นๆ ซึ่ง Google รู้ว่าหน้านี้คือหน้าอะไร ก็อ่านจาก Title Tag นี่แหละ และ….ข้อความที่อยู่ใน Title Tag จะไม่ได้แสดงผลบนหน้าเว็บไซต์นะ แต่จะแสดงที่หน้าการแสดงผลการค้นหาของ Google โดยข้อความที่อยู่ใน Title Tag จะเเสดงเป็นตัวหนา และหากข้อความที่อยู่ใน Title Tag เรามี Keyword ที่ลูกค้าใช้ค้นหา Website เราก็แสดงผลเป็น 1 ใน Non-Paid Search Result บน Google ( 1ในหลักการของการทำ SEO)
มาต่อเรื่องการอ่าน Behavior Reports ในค่าอื่นบ้าง 😄
- นอกจากค่า metrics “All Pages” แล้วยังมีค่า “Average Time on Page” และค่า “Bounce Rate” ที่ใช้เพื่อวิเคราะห์ว่าลูกค้า engage กับเว็บไซค์เรามากน้อยแค่ไหน ยิ่งค่าเฉลี่ยที่อยู่บนหน้าเพจนั้นสูงแสดงว่าหน้านั้นน่าสนใจ ทั้งนี้ต้องวิเคราะห์ให้ดีๆว่า คอนเทนต์หน้าสนใจจริงๆหรือลูกค้าเจอปัญหาหน้านั้น เช่นหากเป็นหน้าสมัครสมาชิกและลูกค้าใช้เวลานานกว่าค่าเฉลี่ย ค่าสูงแบบนี้จะให้ผลเสีย ต้องแก้ไขกันต่อไป และหากเราอยากรู้ว่าหน้าไหนที่มี High Engagement โดยดูที่ ค่า “Average Time on Page” เราสามารถ sorting ได้ โดยการคลิกที่คอลัมนั้น 1 ครั้ง ระบุต้องเรียงค่ามากไปน้อยให้ทันที
- ถัดลงมาอีกเมนูนึงจาก “Site Content” คือ ค่า “Content Drilldown” ข้อมูลชุดนี้จะช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าลึกขึ้นไปอีก โดยค่านี้จะแสดงผลตามโครงสร้าง website’s directory ของเรา ข้อมูลชุดนี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อเราอยากรู้ว่าลูกค้าคลิกอ่านคอนเทนต์ section ไหนของหน้า website นั้นๆ
- ถัดมาคือค่า “Landing Pages” ข้อมูลชุดนี้จะแสดงหน้า site ที่ลูกค้าคลิกเข้ามาเป็นหน้าแรกของเว็บไซค์เรา อีกค่าหนึ่งที่เราต้องให้ความสนใจจากรายงานชุดนี้คือค่า “Bounce Rate” ยิ่งค่า bounce rate สูง โดยเฉพาะหน้า e-commerce site แสดงว่าหน้า site นั้นๆ ไม่น่าสนใจหรือไม่ตรงใจลูกค้า
- ต่อมาคือค่า “Exit Pages” แสดงผลว่าลูกค้าออกจากเว็บไซค์ที่หน้าเพจไหน สมมติถ้าเราเป็นเว็บไซค์ขายของออนไลน์ หากพบว่า exit page คือหน้า Add to Cart การรีวิวหาสาเหตุหรือลดจำนวนการออกจากหน้านี้ให้น้อยที่สุด ถือเป็นอีกวิธีในการเพิ่มยอดขาย
- สุดท้าย report “Events” เป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่ทรงพลัง เพราะช่วยเรา tracks ได้ว่าลูกค้าคลิกอะไร ดูอะไรบนหน้าเว็บไซค์เรา ทำ transaction อะไร เช่นซื้อสินค้า สมัครสมาชิก แลกคะแนน อัพเดทข้อมูลส่วนตัว เป็นต้น หน้าไหนคือหน้ายอดนิยมบ้างแต่การ tracking ได้ละเอียดตามตัวอย่างด้านบน จำเป็นต้องมีการติดตั้งในเชิง technical เพิ่มเติม
📢EP นี้ก็เป็นอันจบการสอนการอ่าน Basic Reports ของ GA เรียกว่าเป็นการเริ่มต้นเรียนและทำความเข้าใจถึงประโยชน์ของเครื่องมือ Google Analytics ในแบบฉบับละเอียดจัดเต็ม 💯 EP ต่อไปจะอธิบายเรื่อง Basic Campaign and Conversion Tracking